ด้วยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ช่วงเวลา 09.00 – 14.00 สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายจำนวน 4 รายว่ารถจักรยานยนต์ของตนได้หายไปจากจุดที่จอดไว้อาจจะถูกคนร้ายลักเอาไป พลตำรวจตรีเกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้สั่งการให้ พันตำรวจเอกสมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และพันตำรวจเอกภูริทัต บุญช่วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้าย กระทำการโดยอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของของประชาชนเป็นอย่างมาก ต่อมาวันที่ 12 มีนาคม 2568 สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการลักรถจักรยานยนต์พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกประทุษร้ายได้จำนวน 2 ราย ดังนี้1.นายวัชรพงษ์หรือเต๋า อายุ 22 ปี 2.นายภานุหรือฟารีฟ อายุ 17 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร ” จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายจะขับขี่รถจักรยานยนต์ในเวลากลางคืนออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ตามอาพาร์ทเมนท์ หอพักต่างๆ ในหลายท้องที่เช่น เขตร่มเกล้า เขตทองหล่อ เขตคันนายาว และนอกเขตปริมณฑลอาทิเช่น จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น โดยวิธีการของคนร้ายเมื่อพบรถจักรยานยนต์ที่ต้องการจะขึ้นไปนั่งบนรถจักรยานยนต์และทำการต่อสายตรง จากนั้นหักคอรถจักรยานยนต์โดยการใช้เท้าถีบคอรถจักรยานยนต์ และเข็นรถจักรยานยนต์ออกมาจากจุดที่จอดอยู่เพื่อทำการลองติดเครื่องหากติดได้จะขับขี่ออกไปทันที และจะนำไปจอดพักคอยเพื่อรถนายหน้าผู้รับซื้อ ต่อมาคนร้ายจะส่งข้อมูลรถจักรยานยนต์ที่ลักเอามาให้กับนายหน้าผู้รับซื้อผ่านแอพพลิเคชันเฟสบุ๊ค โดยขายในราคาคันละประมาณ 12,000 – 17,000 บาท จากนั้นนายหน้าผู้รับซื้อจะขายต่อไปยังผู้รับซื้อคนที่ 2 โดยจะได้กำไรต่อคันประมาณ 3,000 – 5,000 บาท โดยผู้รับซื้อคนที่ 2 จะจ้างรถกระบะตู้ทึบผ่านทางแอปพลิเคชันของบริษัทขนส่งเอกชนให้มารับรถเพื่อนำรถจักรยานยนต์ไปส่งต่อที่จังหวัดชายแดนประเทศพม่าต่อไป พลตำรวจตรีเกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดกวดขัน เพิ่มความเข้มในการตรวจตราป้องกันเหตุลักจักรยานยนต์ในพื้นที่ และในส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบชื่อและได้ขออนุมัติหมายจับไว้แล้ว ซึ่งจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
